วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ เสริมแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์ CR200i จาก Cyberoam ช่วยในการควบคุมแบนด์วิธ, สร้างระบบในการระบุตัวตน, พร้อมปกป้องภัยคุกคามด้านไวรัสและมัลแวร์ เพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น
ประเทศไทย, 19 กรกฎาคม 2554
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี เป็นวิทยาลัย 1 ใน 29 แห่ง ที่สังกัดสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสารณสุข มีหน้าที่หลักคือ ผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุข หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต เพื่อรองรับระบบบริการสุขภาพให้กับสถานบริการสาธารณสุข ทั่วประเทศ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ประกอบด้วย 3 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตศรีธัญญา, วิทยาเขตบำราศนราดูร และวิทยาเขตนนทบุรี
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ได้รับภารกิจให้ผลิตบุคลากรพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 800 คนและให้บริการแก่ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ประมาณ 90 คน จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานต้องดำเนินการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังต้องรองรับการใช้งานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สาย สนองความต้องการของผู้เรียน ที่นับวันจะมีการนำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมา ใช้ในการเรียนการสอนกันมากขึ้น
โดยในปัจจุบันทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ได้เปิดให้บริการใช้งานเซอร์วิสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Hi-Speed Network และการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi, ระบบการเรียนการสอนแบบ E-learning, การใช้งาน Email & Social Network ตลอดจนการให้บริการ VDO Streaming เป็นต้น โดยมีหน่วยเทคโนโลยีสารสนเทศคอยให้บริการด้านระบบไอทีทั้งหมด
นำเทคโนโลยีเข้ามาจัดการ
ด้วยจำนวนของบุคคลากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบไอทีภายในองค์กรขึ้นมากมาย กล่าวคือ พวกเขาไม่สามารถควบคุมการใช้งานแบนด์วิธ (Bandwidth) ของระบบเน็ตเวิร์กได้, ไม่สามารถที่จะตรวจสอบเว็บไซต์ที่นักศึกษาเข้าใช้งานได้, รวมถึงยังพบว่ามีปัญหาที่เกิดจากไวรัสและมัลแวร์อีกมากมายมารบกวนด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเป็นอย่างยิ่ง
ดร.โสภาพันธ์ สอาด หัวหน้าหน่วยเทคโนโลยีสารสนเทศ(พร้อมทั้งทีมงาน) ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลระบบไอทีทั้งหมด ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ อธิบายไว้ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนอกจากทางวิทยาลัยจะประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการใช้งานแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงเรื่องข้อปฏิบัติด้านกฏหมาย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ 2550 (พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550) อีกด้วย นั่นจึงทำให้ต้องปรับปรุงอุปกรณ์ไอทีขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้สามารถรับมือกับประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้
“ปัจจุบันนักศึกษาได้นำโน้ตบุ๊กมาใช้งานในวิทยาลัยมากขึ้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ของนักศึกษาทั้งหมด สิ่งที่ระบบไอทีของวิทยาลัยประสบปัญหาก็คือ เรื่องของแบนด์วิธที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้เครือข่ายช้าและหลุดบ่อย ตลอดจนยังเจอไวรัสเข้ามาก่อกวน และต้องคำนึงถึงเรื่องการเก็บล็อกไฟล์ (Log file) ตามกฏหมายอีก ทำให้เราต้องพิจารณาหาโซลูชันด้านไอทีมาแก้ไข” ดร.โสภาพันธ์ กล่าว
ในช่วงแรกของการพิจารณาทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ได้พิจารณาโซลูชันไว้อยู่ด้วยกันสองทาง โดยในทางแรกได้มองถึงโซลูชันที่เป็นซอฟต์แวร์ เป็นหลัก โดยอาศัยแอพพลิเคชันแบบฟรีแวร์ (Linux-based) เพราะจะทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้สูง แต่อย่างไรก็ตามก็พบว่าการใช้ซอฟต์แวร์ใน ลักษณะนี้ ยากต่อการทำงานและปรับแต่ง (Configure) ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษา พร้อมทั้งไม่สะดวกต่อการบริหารจัดการอีกด้วย ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการพิจารณากันใหม่ โดยหันมาดูกันที่โซลูชันในลักษณะแบบฮาร์ดแวร์แทน
เฟ้นหาโซลูชันไอที ที่ตอบโจทย์ความต้องการ
ดร.โสภาพันธ์บอกว่าช่วงเวลานั้น ได้มีการพูดคุยกับผู้ให้บริการและที่ปรึกษาระบบจากภายนอก เพื่อที่จะพิจารณาถึงโซลูชันฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมกับวิทยาลัย โดยจะต้องตอบโจทย์ทั้งในส่วนของการที่จะควบคุมการจ่ายแบนด์วิธ, การจัดการเรื่องของการแสดงตัวตนของผู้ใช้ (Identity-based security), การแก้ไขปัญหาเรื่องไวรัสและมัลแวร์, สามารถปฏิบัติตามกฏหมาย พรบ.คอมพิวเตอร์ได้ และที่สำคัญไม่ทำให้งบประมาณบานปลายด้วย
หัวหน้าเทคโนโลยีสารสนเทศ ยังกล่าวต่อไปว่าทางวิทยาลัยได้ทดลองอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์จากหลายๆ บริษัทด้วยกัน ซึ่งแต่ละบริษัทก็ติดปัญหาในแต่ละจุดที่แตก ต่างกันไป โดยบางบริษัทสามารถที่จะมีฟังก์ชันการทำงานครบถ้วน แต่ติดปัญหาเรื่องของราคา ในขณะที่บางบริษัทมีราคาเหมาะสม แต่ไม่สามารถใช้ฟังก์ชัน ได้ครบถ้วน เป็นต้น ซึ่งในท้ายที่สุดก็ได้ทดลองใช้อุปกรณ์ CR100i และ CR200i จากทาง Cyberoam ก็พบว่าสามารถที่จะตอบโจทย์ทั้งหมดที่วิทยาลัย พยาบาลบรมราชชนนีฯ ต้องการได้
“ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อ เราก็ได้ทดลองใช้งานจริงกับมันอยู่สักระยะหนึ่ง และก็พบว่า Cyberoam สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และเมื่อคุยกันถึงเรื่องงบประมาณ ก็เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ทางวิทยาลัยกำหนด นั่นจึงทำให้เราตัดสินใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นี้ได้ง่ายขึ้น” – ดร.โสภาพันธ์ กล่าวเสริม
เนื่องจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ได้ใช้งานผลิตภัณฑ์รุ่น CR100i มาเป็นระยะเวลาประมาณเกือบ 3 ปี จึงได้มีการอัพเกรดรุ่นใหม่เพื่อให้สามารถ รองรับแอพพลิเคชันต่างๆ ในวิทยาลัย ที่ทำงานในระดับกิกะบิตแล้วโดยยังคงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก Cyberoam โดยเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่น CR200i ที่มีคุณสมบัติในการรองรับโครงข่ายแบบกิกะบิต พร้อมทั้งเปิดใช้คุณสมบัติต่างๆ ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Firewall, IPS, Logging, Content Filtering, Anti-Virus/Anti-Spyware, Bandwidth Management เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ CR100i ก็ได้ถูกโอนถ่ายไปใช้งานที่วิทยาเขตบำราศนราดูรต่อไป
สร้างอรรถประโยชน์สูงสุด ให้แก่วิทยาลัย
จากการที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ นำเอาโซลูชันของ Cyberoam มาใช้ในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาสามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขจัดปัญหาในเรื่องของการควบคุมระบบแบนด์วิธลงไปได้, การป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่เกิดขึ้นในวิทยาลัย, การควบคุมเนื้อหาและเว็บไซต์ที่ ไม่เหมาะสม ตลอดจนการใช้คุณสมบัติเกี่ยวกับนโยบายระบุตัวตนเพื่อการใช้งานที่ทำได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วฟีเจอร์ที่มีในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังสามารถ เก็บข้อมูลล็อกไฟล์ ที่อิงตามพรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 ได้อีกด้วย นอกจากนั้นตัวแทนจำหน่ายของ Cyberoam ก็ให้บริการเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูล, เซอร์วิสต่างๆ และทีมงานที่คอยทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ อย่างต่อเนื่องด้วย
“ทั้งในส่วนของเราและนักศึกษา (ยูสเซอร์) ก็พอใจกับประสิทธิภาพที่ได้รับจากโซลูชันมาก ระบบอินเทอร์เน็ตก็ทำงานได้อย่างสะดวกและลื่นไหลไม่ติดขัด ไวรัสและสปายแวร์ก็ไม่มีอีกเลย ถือได้ว่างบประมาณที่ลงทุนไปในครั้งนี้ ก็สร้างความคุ้มค่าคืนกลับให้วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีฯ ของเราได้อย่างมากมาย” ดร.โสภาพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย